พบกับ Abby: การสร้างบริการลิฟต์ที่ชาญฉลาดยิ่งขึ้น

ประโยชน์ของบริการลิฟต์อัจฉริยะ

สำหรับเจ้าของอาคาร ลิฟต์ที่เชื่อมต่อถึงกันจะเป็นทางออกที่ช่วยประหยัดเวลาและต้นทุน โดยเพิ่ม "เวลาที่ใช้งานได้" ให้สูงสุด ในขณะที่ลดการหยุดชะงักให้เหลือน้อยที่สุด ลิฟต์เหล่านี้ใช้ขั้นตอนการบำรุงรักษาน้อยลง (โดยปัญหาหลายประการได้รับการแก้ไขจากระยะไกล) เวลาในการตอบสนองทางการบริการเร็วขึ้นมาก (เนื่องจากสามารถโทรหาผู้เชี่ยวชาญที่เป็นเข้าหน้าที่ได้ทันทีที่พบปัญหา) แก้ไขปัญหาได้เร็วกว่า (เนื่องจากสามารถวินิจฉัยปัญหาด้วยตนเองและแนะนำแนวทางการบริการที่เหมาะสมได้) และมอบผลประโยชน์ด้านความยั่งยืนที่ช่วยให้เจ้าของอาคารสามารถดูแลโลกใบนี้ได้

การแก้ไขปัญหาลิฟต์ที่ขับเคลื่อนด้วยระบบคลาวด์

บันไดเลื่อนที่เชื่อมต่อแบบดิจิทัลได้จะกลายเป็นประโยชน์ได้จริงก็ต่อเมื่อผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบอุปกรณ์จากระยะไกลได้ตลอดเวลา หรือหากให้พูดอย่างเจาะจง ผู้เชี่ยวชาญดังกล่าวคือกลุ่มบุคคลเช่นเดียวกับ Abby ซึ่งสามารถแปลข้อมูลให้กลายเป็นข้อมูลเชิงลึกที่สามารถนำไปใช้งานได้จริง และช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของลิฟต์

เครือข่ายผู้เชี่ยวชาญใน TOC ของ Abby ซึ่งตั้งอยู่ใน 27 แห่งทั่วโลก จะวิเคราะห์ข้อมูลที่รวบรวมผ่านแพลตฟอร์มการตรวจระยะไกลของ Schindler ที่เก็บรวบรวมจากลิฟต์นับล้านตัวในแหล่งข้อมูลทั่วโลก การวิเคราะห์นี้ขับเคลื่อนให้สามารถตอบสนองต่อปัญหาที่เร่งด่วนได้อย่างรวดเร็ว หากสามารถแก้ไขปัญหาได้จากระยะไกล ก็จะแก้ไขปัญหานั้นด้วยวิธีการดังกล่าว

"นั่นคือพลังของแพลตฟอร์มการตรวจระยะไกล" Abby กล่าว "แพลตฟอร์มดังกล่าวเป็นระบบบนคลาวด์ที่ช่วยให้เราจัดลำดับความสำคัญของงานเพื่อให้สามารถมอบบริการได้รวดเร็วยิ่งขึ้น"

หากจำเป็นต้องมีช่างเทคนิคคอยบริการ ทีมงานของ Abby จะให้ข้อมูลการวินิจฉัยทั้งหมดที่จำเป็นแก่ช่างเหล่านั้นเพื่อให้สามารถมอบบริการที่มีประสิทธิภาพ "เวลาที่ "น่ายินดี" คือตอนที่เราสามารถบอกลูกค้าได้ว่าเราพบปัญหานะ เราได้แจ้งคุณแล้ว ตอนนี้ไม่ต้องกังวลแล้วให้เราแก้ไขปัญหาให้" Abby กล่าวเสริม

ทั้งเธอและทีมงานยังเจาะลึกลงไปในแหล่งข้อมูลเชิงลึกทางดิจิทัลที่มีการขยายตัวเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ นี้เพื่อช่วยกำหนดรูปแบบผลิตภัณฑ์และบริการในอนาคตของ Schindler ลิฟต์ที่เชื่อมต่อกันช่วยให้ธุรกิจเรียนรู้ พัฒนา และรองรับบริการในอนาคตได้

ระบบนิเวศแบบวงปิดของลิฟต์ที่เชื่อมต่อกัน ณ ฝั่งของลูกค้า, การตรวจระยะไกลที่ TOC และข้อมูลเชิงลึกที่ส่งไปยังช่างเทคนิคในภาคสนามล้วนแล้วแต่เป็นเคล็ดลับของบริการเชิงรุกที่น่าเชื่อถืออย่างยิ่ง

แนวทางเชิงป้องกันช่วยเพิ่มเวลาที่ใช้งานได้

ลิฟต์ที่เชื่อมต่อกันก่อให้เกิดประโยชน์เชิงพาณิชย์ นี่คือความจริง เราไม่ควรมองข้ามผลกระทบทางการเงินจากลิฟต์ที่พัง หากลิฟต์ไม่เชื่อมต่อกัน กว่าลูกค้าจะทราบว่าลิฟต์เกิดการชำรุดขึ้น เวลาก็มักจะผ่านไปนานกว่าสามชั่วโมงหลังจากเกิดความล้มเหลว

"ลองนึกภาพศูนย์ค้าปลีกขนาดใหญ่" Abby อธิบาย “หากลิฟต์แม้เพียงตัวเดียวชำรุด ลูกค้าก็อาจไม่สามารถช้อปปิ้งได้ ซึ่งก็อาจส่งผลให้สูญเสียเงินหลายพันดอลลาร์ต่อชั่วโมง! เราต้องการช่วยให้ธุรกิจต่างๆ หลีกเลี่ยงความเสี่ยงดังกล่าว"

“เพราะมีระบบ TOC และแพลตฟอร์มการตรวจระยะไกล เราจึงสามารถป้องกันปัญหาต่างๆ ได้ เราไม่เพียงแต่ตรวจหาข้อผิดพลาดได้ในขณะที่เกิดขึ้นเพื่อที่จะแก้ไขอย่างรวดเร็วเท่านั้น แต่ยังมักจะคาดการณ์ก่อนที่สิ่งเหล่านั้นจะกลายเป็นปัญหาอีกด้วย" เธอกล่าว

ในกระบวนการปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง ทาง Abby และทีม TOC อื่นๆ ต่างยุ่งอยู่กับการปรับปรุงบริการให้กับลูกค้าและช่างเทคนิคจากหลังบ้าน โดยใช้ข้อมูลเชิงลึกทางดิจิทัลที่รวบรวมจากลิฟต์ที่เชื่อมต่อ ซึ่งทั้งหมดนี้นำไปสู่เวลาที่ใช้งานได้ที่ยาวนานขึ้น "ลูกค้ารู้สึกประหลาดใจมากที่เราส่งช่างเทคนิคไปหาลูกค้าก่อนที่พวกเขาจะรู้ว่าเกิดปัญหาเสียอีก!" เธอกล่าวเสริม

การให้ข้อมูลเชิงลึกแก่เจ้าของ

Schindler ไม่ได้เก็บข้อมูลทางสถานะที่สำคัญทั้งหมดจากลิฟต์ที่เชื่อมต่อไว้กับตนเองเท่านั้น เจ้าของอาคารเองก็ได้รับข้อมูลสำคัญเช่นกัน ทีมงานของ Abby มอบข้อมูลเชิงลึกทางดิจิทัลแก่ลูกค้าผ่านแพลตฟอร์ม Schindler Ahead ActionBoard

ซึ่งจะรวบรวมสถิติ กิจกรรม และข้อมูลประสิทธิภาพอันสำคัญทั้งหมดจากลิฟต์และบันไดเลื่อนของลูกค้ามาไว้ในแดชบอร์ดที่ใช้งานง่าย "ลูกค้าชอบที่จะมีข้อมูลทั้งหมดอยู่ใกล้แค่ปลายนิ้ว" Abby ยืนยัน "ยิ่งไปกว่านั้น ยังสามารถตรวจจับและแก้ไขปัญหาอย่างรวดเร็วได้ง่ายขึ้นมากเมื่อทุกคนมีภาพรวมเกี่ยวกับอุปกรณ์ของตนที่ชัดเจน"

Schindler Ahead ActionBoard ช่วยให้ TOC จัดลำดับความสำคัญของงาน เช่น การตรวจสอบประสิทธิภาพและการวางแผนการบำรุงรักษาตามปกติ ตลอดจนแจ้งให้ลูกค้าทราบในทุกขั้นตอน ผ่านข้อมูลเชิงลึกที่ดำเนินการได้แบบเรียลไทม์

ลิฟต์และบันไดเลื่อนที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้นและอนาคตที่ชาญฉลาดยิ่งขึ้น

ลิฟต์ที่เชื่อมต่อกันมอบผลประโยชน์ด้านความยั่งยืนอย่างแท้จริงให้แก่เจ้าของอาคาร การใช้ข้อมูลเชิงลึกด้านประสิทธิภาพที่ได้รับจากลิฟต์ หมายความว่า Schindler สามารถดำเนินการเชิงป้องกันเพื่อลดข้อผิดพลาดให้เหลือน้อยที่สุดได้ ตลอดจนลดการโทรกลับไปยังสถานที่ให้เหลือแค่ที่จำเป็นจริงๆ เท่านั้น

ในความเป็นจริง การวิเคราะห์ข้อมูลนี้ของ Schindler แสดงให้เห็นว่าลิฟต์ที่เชื่อมต่อสามารถลดการโทรกลับได้มากถึง 37%* ขณะที่แก้ไขปัญหาเร็วขึ้นถึง 34%* จึงนำไปสู่การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่เกิดจากการเข้าเยี่ยมหน่วยงาน ซึ่งช่วยให้ลูกค้าได้รับเครดิตอาคารสีเขียว

ด้วยบริการที่ดีขึ้น เวลาหยุดทำงานที่น้อยลง และการรับรองด้านความยั่งยืนอย่างแท้จริง ลิฟต์และบันไดเลื่อนที่เชื่อมต่อกันจะมอบทั้งประโยชน์แบบในทันทีและแบบในระยะยาวให้กับลูกค้าของ Schindler และต่อโลกใบนี้ด้วย

ยิ่งไปกว่านั้น เราสามารถนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ในระบบอาคารได้โดยไม่ต้องดำเนินการลงทุนมากหรือปรับปรุงอุปกรณ์ให้ทันสมัยอย่างเต็มรูปแบบ Abby อธิบายว่า “บางครั้งอุปกรณ์ง่ายๆ ที่เชื่อมต่อกับลิฟต์ที่มีอยู่ก็เป็นสิ่งที่ลูกค้าต้องการเพื่อเข้าถึงสิทธิประโยชน์ทั้งหมดของบริการที่เชื่อมต่อทั้งในปัจจุบันและในอนาคต”

ฟังดูเป็นแผนการที่ดีสำหรับเจ้าของอาคารทุกคน

_{*เมื่อเปรียบเทียบกับลิฟต์ที่ไม่เชื่อมต่อ}